การทาสีทับหน้านั้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยให้ผนังหรือพื้นผิวที่เรานั้นทาสีออกมา เรียบเนียน และมีความทานทาน โดยทั่วไปแล้ว เทคนิคทาสีทับหน้า ให้เรียบเนียน การทาสีทับหน้านั้นจะต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน และขึ้นอยู่กับชนิดของสีที่ต้องใช้ รวมถึงสภาพพื้นผิวเดิมว่าพร้อมสำหรับการทาสีใหม่หรือเปล่า
1.การเตรียมพื้นผิวให้พร้อมก่อนจะทาสีทับหน้า
ก่อนที่เรานั้นจะเริ่มทาสีทับหน้าได้ สิ่งที่เรานั้นต้องทำคือการเตรียมพื้นผิวให้สะอาดและพร้อมรับสีใหม่ เพราะว่าหากพื้นผิวนั้นมีปัญหา เช่น ฝุ่น คราบสกปรก สีเดิมลอกล่อน หรือมีเชื้อรา สีทับหน้าที่ทาลงนั้นอาจจะไม่ติดทนและเกิดปัญหาภายหลังได้ วิธีทำความสะอาดผนังก่อนจะทาสี
วิธีการเตรียมพื้นผิวที่ถูกต้อง
ล้างทำความสะอาดพื้นผิว หากมีฝุ่น คราบไขมัน หรือคราบที่สกปรก แนะนำให้เรานั้นใช้ผ้าชุบน้ำหรือสารทำความสะอาดเช็ดให้สะอาด แล้วปล่อยให้แห้งดีกว่า
ขูดสีเก่าที่หลุดล่อนออกไปให้หมด ให้เรานั้นใช้แปรงลวดหรือเกรียงขูดสีลอกออกให้หมดก่อน เพื่อให้สีใหม่ยึดเกาะผนังได้ดีกว่าเดิม
ซ่อมแซมรอยแตกร้าว หากผนังมีรอยแตกร้าว ควรอุดด้วยวัสดุโป๊ว เช่น อะคริลิคหรือปูนฉาบบาง
ทิ้งให้พื้นนั้นแห้งสนิทก่อนจะทาสี ความชื้นนั้นนั้นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สีนั้นลอกล่อนเร็ว หากเป็นผนังปูนใหม่ เรานั้นต้องทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 21-28 วันก่อนที่จะทาสี
2.การทาสีรองพื้น
สีรองพื้นเป็นชั้นที่ช่วยให้สีทับหน้าติดทนทานนานขึ้น แลละยะงสามารถช่วยลดปัญหาสีลอกล่อนหรือเกิดรอยด่าวอีกด้วย สีรองพื้นที่ใช้ส่วนใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของพื้นผิว เช่น เทคนิคการทาสีรองพื้น
สีรองพื้นปูนใหม่ : ใช้กับผนังปูนที่ฉาบเสร็จใหม่
สีรองพื้นปูนเก่า : ใช้กับผนังที่เคยทาสีแล้ว
สีรองพื้นกันด่าง : เหมาะกับผนังปูนใหม่ที่มีความเป็นด่างสูง
สีรองพื้นกันสนิม : ใช้สำหรับพื้นผิวโลหะ
3.การทาสีทับหน้ากี่รอบถึงจะดี
เมื่อเรานั้นเตรียมพื้นผิวและทาสีรองพื้นเสร็จแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนของการทาสีทับหน้า
โดยทั่วไปแล้ว การทาสีทับหน้านั้นต้องทาทั้งหมด 2 รอบ เพื่อให้สีนั้นมีความสม่ำเสมอและปกปิดพื้นผิวได้ดี แต่ถ้าเกิดสีนั้นบางหรือพื้นเดิมนั้นเข้ม ก็อาจจะต้องเพิ่มรอบนั้นเอง
การทาสีทับหน้าที่แนะนำ
1.เริ่มการทาสีรอบแรก ด้วยลูกกลิ้งหรือลุกกลิ้งขนสั้นสำหรับพื้นผิวเรียบและแปรงสำหรับเก็บขอบ
2.ทิ้งให้แห้งสนิทก่อนจะทารอบสอง ปกติแล้วอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง
3.ทาสีรอบที่สอง เพื่อให้สีนั้นเข้มขึ้นและเรียบเนียนมากขึ้น
4.ตรวจสอบควาเรียบเนียนของสี ถ้าเกิดยังมีรอยด่าง อาจจะต้งอทารอบที่ 3
การทำตามขั้นตอนเหล่านี้นั้นจะสามารถช่วยให้ สีบ้านของเรานั้นออกมาดูสวยงามและไม่ลอกล่อนง่าย