ในการตัดสินใจเลือกสีทาบ้าน ไม่ว่าจะเป็นภายนอกหรือภายในบ้านล้วนเป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยาก เนื่องจากนานๆครั้งเราจะมีการทาสีบ้านสักครั้งนึง อาจจะเป็น 5 ปี ,10 ปี, 20 ปี ก็เเล้วเเต่ละคน ยิ่งถ้าเป็นครอบครัวสามีภรรยายิ่งตัดสินใจเลือกสีทาบ้านยากใช่เล่น บางทีสามีชอบสีเข้มๆ เทาๆ ลอฟต์ๆ เเต่ภรรยาชอบสีหวานๆ คิตตี้ๆ น่ารักๆ กว่าทั้งสองคนจะหาจุดร่วมกึ่งกลางร่วมกันในการเลือกสีทาบ้านก็คงใช้เวลานาน หากไปซื้อสีที่ถังใหญ่ๆมาทาคงจะเปลืองเงินน่าดู วัันนีี้เเอดมินเลยมี 4 วิธี การเลือกสีทาบ้านมาเเนะนำกัน
1.ซื้อสีตัวอย่างเล็กๆมาลองทา
การที่ซื้อสีตัวอย่างไซต์เล็กๆมาทานั้น เป็นวิธีที่เเม่นยำที่สุด เพราะจะได้เฉดสีที่ตรงกับที่ต้องการ เเต่คู่สามีภรรยานั้นต้องตัดสินใจก่อนว่าจะเลือกเฉดสีไหนมาทาตัวอย่าง โดยในการเลือกเฉดสี เราสามารถเลือกได้จากพัดสีตามร้านขายสีทั่วไป
2.ดูเฉดสีต้องดูตอนสีเเห้ง
หลังจากเราเลือกเฉดสีตามที่ต้องการเเละได้ไปซื้อสีตัวอย่างจากร้านค้าเเล้ว ให้เรานำสีดังกล่าวมาลองทาเเผงเล็กๆที่บ้านดู โดยวิธีการทาเราสามารถทาได้ โดยใช้อุปกรณ์เเปรงหรือลูกกลิ้งก็ได้ หลังจากที่เราทาสีบนผนังเเล้ว ฟิล์มสีที่ทาจะยังเปียกๆอยู่ ในขั้นตอนนี้เราอย่าพึ่งด่วนสรุปว่าเราชอบเฉดสีนี้ไหม เนื่องจากฟิล์มสีที่ยังไม่เเห้งจะเข้มกว่าปกติ เราต้องรอให้ฟิล์มสีเเห้งสนิทจริงๆถึงค่อยดู ระยะเวลาในการเเห้งของสี ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ถึงเเห้งสนิท
3.Copy เฉดสีจากข้างบ้าน
หากสมมติว่าเรานึกเฉดสีที่อยากจะทาไม่ได้จริงๆ เราอาจจะขอ Copy เฉดสีจากข้างบ้านหรือทางที่เราเดินผ่านก็ได้ หากเป็นพวกคอนโดหรือหมู่บ้าน เราสามารถเดินไปถามที่นิติได้เลย เพราะนิติจะมีข้อมูลงานสถาปัตยกรรมอยู่ เเต่อีกวิธีหนึ่งก็คือ ถ้าเราบังเอิญเจอฟิล์มสีที่ล่อนๆอยู่เเล้วเราชอบสีนั้น เราอาจจะขอดึงสีที่ล่อนๆมาสักหน่อย เเล้วนำไเทียบเฉดสีกับพัดสีที่ร้านค้าได้ วิธีนี้ก็ไม่เลวเลยทีเดียว
4.เวลาทาสีต้องทา 2 เที่ยว
ถามว่าทำไมต้องทาสี 2 เที่ยว ถึงดูเฉดสีได้ เนื่องจากหากเป็นสีเข้มๆสดๆ การทาสีเที่ยวเดียวสีอาจจะยังไม่ขึ้น สีจะอ่อนกว่าที่ควรจะเป็น ให้เราทาสีเพิ่มอีก 1-2 เที่ยว เพื่อให้สีขึ้นเฉดเต็มที่ จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าชอบเฉดนี้หรือไม่
ทุก ๆ วันมีค่า ดังนั้นจงใช้มันอย่างมีค่า ไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับวันพรุ่งนี้ จงใช้ชีวิตในวันนี้เถอะ
– คีอานู รีฟส์ –
